1.ระบบควบคุมเสถียรภาพ

ในสมัยก่อนระบบควบคุมเสถียรภาพจะมีอยู่ในรถหรูราคาแพงเท่านั้น แต่ปัจจุบันถูกพัฒนาให้มีต้นทุนต่ำลงจนสามารถนำมาติดตั้งในรถราคาประหยัดได้แล้ว ซึ่งระบบดังกล่าวมีชื่อเรียกต่างกันไปตามแต่ละผู้ผลิต เช่น DSC, VSC, VSA หรือ ESP เป็นต้น ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในกรณีต้องหักหลบสิ่งกีดขวางกะทันหันหรือเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงเกินไป ลดโอกาสเสี่ยงที่รถจะเสียหลักจนทำให้เกิดอุบัติเหตุได้

2.ถุงลมนิรภัยคู่หน้า

รถยนต์รุ่นใหม่ทุกคันควรมีถุงลมนิรภัยคู่หน้าเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เนื่องจากจะช่วยปกป้องไม่ให้ร่างกายได้รับแรงกระแทกจากพวงมาลัยหรือแผงคอนโซลได้ แต่หากรถคันไหนมีถุงลมนิรภัยตำแหน่งอื่นควบคู่กันไปด้วย เช่น ถุงลมนิรภัยด้านข้าง หรือม่านถุงลมนิรภัย ก็จะช่วยลดโอกาสเสี่ยงได้รับบาดเจ็บในกรณีถูกชนด้านข้างได้อีกด้วย

3.จอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID

หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ที่สามารถบอกอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง, ระยะทางที่รถวิ่งได้, ค่าเฉลี่ยอัตราสิ้นเปลือง ฯลฯ จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถรับรู้ถึงอัตราสิ้นเปลืองในการขับรถแต่ละรูปแบบได้ สามารถวางแผนการเดินทางและการใช้น้ำมันให้ประหยัดเพิ่มขึ้น ช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าทางอ้อมได้

4.กระจกไฟฟ้าขึ้น-ลงอัตโนมัติฝั่งผู้ขับ

แม้ว่าจะดูเป็นอ็อพชั่นพื้นฐานแบบสุดๆ แต่ปัจจุบันก็ยังมีรถบางรุ่นที่มีเฉพาะระบบเลื่อนลงอัตโนมัติเพียงอย่างเดียวเท่านั้น โดยที่การเลื่อนขึ้นจะต้องกดค้างเอาไว้เองจนกว่าจะปิดสนิท แม้ว่าจะดูไม่ใช่เรื่องยากเย็นนัก แต่ก็ส่งผลต่อความปลอดภัยได้ในบางกรณี เช่น จ่ายค่าทางด่วน หรือรับบัตรจอดรถ เป็นต้น ซึ่งแทนที่ผู้ขับขี่จะกดสวิตช์เพียงครั้งเดียว กลับต้องเสียสมาธิเพื่อให้แน่ใจว่ากระจกปิดสนิท ทำให้ไม่สามารถโฟกัสกับการขับขี่ได้อย่างเต็มที่

5.กระจกมองข้างพับด้วยไฟฟ้า

โดยมากรถส่วนใหญ่จะมีระบบปรับกระจกมองข้างแบบไฟฟ้ามาให้ แต่รถบางรุ่นยังเป็นแบบพับมือ ซึ่งหากเมื่อใดมีความจำเป็นต้องพับทั้งสองข้าง ก็ต้องเดิมอ้อมรถเพื่อไปพับกระจกอีกฝั่ง เรียกว่าไม่สะดวกกับการใช้งานเป็นเลย

6.กุญแจ Keyless Entry + ปุ่ม Push Start

กุญแจ Keyless Entry ที่ไม่จำเป็นต้องนำกุญแจออกจากกระเป๋า ช่วยลดความเสี่ยงเผลอลืมกุญแจทิ้งไว้ในรถได้ เพราะหากระบบตรวจพบว่ากุญแจถูกทิ้งไว้ภายในรถ รถจะไม่ล็อคหรือจะปลดล็อคให้เองอัตโนมัติ แต่หากวันไหนโชคร้ายถูกโจรกรรมรถแบบซึ่งหน้าเนื่องจากสตาร์ทเครื่องยนต์ทิ้งไว้แล้วล่ะก็ ทันทีที่โจรดับเครื่องยนต์ ก็จะไม่สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ได้อีก เนื่องจากกุญแจไม่ได้อยู่ในรถ พอที่จะถ่วงเวลาให้ติดตามรถคืนได้ แต่หากเป็นกุญแจแบบเสียบปกติแล้วล่ะก็เรียกว่าหมดสิทธิ์ได้เลย